Contents

ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส

น้ำหอมฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อมาหลายยุคหลายสมัย ทำไมต้องน้ำหอมฝรั่งเศส ทำไม ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส ถึงเป็นประเทศที่ได้กล่าวขานว่าเป็นเมืองแห่งน้ำหอม และจะเป็นเมืองแห่งประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส ตลอดกาล เป็นเพราะอะไรเรามาดูประวัติกัน

ในประเทศฝรั่งเศส ยุคแห่งปรัชญาและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม และยังเป็นยุคแห่งความโชติช่วงของแวดวงน้ำหอมด้วยเช่นกัน ในพระราชสำนักของพระเจ้าหลุย์ที่ 15 (LOUIS XV) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นราชสำนักแห่งน้ำหอม เครื่องหอมนานาชนิดไม่ได้ถูกนำไปใช้เฉพาะกับร่างกายเท่านั้น แต่ยังได้ถูกนำไปใช้เพิ่มความหอมให้กับเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า พัด ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆเพื่อให้กลิ่นหอมตลบไปทั่วเขตพระราชฐาน ในขณะที่ BEAUX DE SENTEUR (เครื่องหอมชื่อดังในสมัยนั้น) ได้รับความนิยมอย่าง กว้างขวางมากขึ้น การแข่งขันในการผลิตเครื่องหอมได้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรูป แบบให้ซับซ้อนมากขึ้นเช่นกัน โดยมีการละลายเครื่องหอมกับน้ำส้มสายชูและเกลือ (VINAIGRE DE TOILETTE OR SALTS) เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรค และดับกลิ่นไม่พึง ประสงค์ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงสูงสุดในยุคนั้นชื่อ “FOUR THIEVES VINAIGRE” (ซอสหอมชนิดหนึ่งของฝรั่งเศส) และได้สร้างความมั่งคั่งให้กับเจ้าของสินค้าในเมือง MARSEILLES อย่างมหาศาล

เรื่อง น่าสนใจ ของ ประวัติน้ำหอม ฝรั่งเศส ปี 1720

ในปี คศ. 1720 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ได้เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส ได้ปรากฏชื่อ FOUR THIEVES(สี่จอมโจร) ซึ่งไม่มีใครไม่รู้จัก กลุ่มโจรขโมยสมบัติตามหลุมฝังศพของบรรดาเศรษฐีของฝรั่งเศส ครั้งหนึ่งกลุ่มสี่จอมโจรได้เข้าไปขโมยขุดหลุมฝังศพแห่งหนึ่งซึ่งเป็นศพที่ติดเชื้อโรคระบาด แต่ทั้งสี่กลับปลอดภัยจากการ ติดเชื้อเนื่องจาก VINAIGRE ที่ทั้งสี่ได้ผลิตขึ้นใช้เอง และหลังจากสี่จอมโจรถูกจับ เรื่องราวที่พวกเขาปลอดภัยจากโรคติดต่อก็แพร่สะพัดไปทั่วฝรั่งเศส และทั้งสี่ก็จำเป็นต้องขายสูตรมหัศจรรย์ของเขาให้ผู้อื่น ด้วยผลตอบแทนอันน้อยนิด ดูเหมือนว่าสูตรลับของเหล่าโจรจะมีความสามารถในการขับไล่แมลงร้ายต่าง ๆ ซึ่งเป็นพาหะในการแพร่เชื้อโรคมาสู่ร่างกายมนุษย์

สุดยอด สูตรลับ ประวัติน้ำหอม ฝรั่งเศส

ในศตวรรษ์ที่ 18 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” เป็นช่วงเวลาแห่งการปฏิวัติน้ำหอมสู่ยุคใหม่ พร้อมกับการเกิด EAU DE COLOGNE (ออดิโคโลญน์) สารเหลวแห่งความสดชื่น อันประกอบด้วย ROSEMARY, NEROLI(ORANGE FLOWER), BERGAMOT, และ LEMON OIL EAU DE COLOGNE ได้ถูกนำไปใช้งานใน หลากหลายรูปแบบ บ้างก็ใช้ผสมน้ำสำหรับแช่อาบ(การแช่ในอ่างอาบน้ำได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และปฏิบัติเป็นกิจวัตในยุคนั้น) บ้างใช้ทำน้ำยาบ้วนปาก บ้างใช้ทำน้ำยาสวนทวารหนัก (DETOX) บ้างใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับฟอกเรือนร่าง และยังมีการใช้ฉีดเข้าร่างกายโดยตรง เป็นต้น จากความนิยม สูงสุดของ EAU DE COLOGNE ทำให้เกิดการโต้แย้งอวดอ้างมากมายถึงสรรพคุณในผลิตผลของเจ้าของ สูตรแต่ละราย ต่างก็เขียนสูตรของตนเองเป็นเอกสารเพื่อล้มล้างเอาชนะสร้างความน่าเชื่อถือกับฝ่าย ตรงข้าม และหนึ่งในตัวอย่างคือความขัดแย้งระหว่างตระกูล FEMINIS และ ตระกูล FARINA FAMILIES หนึ่งในผู้นำทฤษฎีที่น่าเชื่อถือที่สุดคือตระกูล FARINA FAMILY FORM EMILIA ทางตอนเหนือของอิตาลี ผู้ค้นพบสูตรน้ำหอมดังแห่งยุคชื่อ EAU DE BOLOGNA อีกสูตรที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ระหว่างศตวรรษที่ 14 คือ AQUA REGINA น้ำหอมสูตรลับของสำนักแม่ชี SANTA MARIA NEVELLA IN FLORENCE

สูตรลับนี้ถูกปิดเป็นความลับมาตลอดจน กระทั่งศตวรรษที่ 17 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ได้มีชาวอิตาเลียนชื่อ GIOVANNI PAOLO FEMINIS ได้ลวงให้หัวหน้าแม่ชีเปิดเผย สูตรลับ AQUA REGINA ให้กับตน หลังจากได้สูตรลับนี้แล้ว GIOVANNI PAOLO ได้ประกาศตนเป็นนักปรุงน้ำหอม ดำเนินการผลิต COLONGE ภายใต้ชื่อ “EAU ADMIRABLE” โดยไม่ต้องเสียเวลาแม้แต่นาทีเพื่อคิดค้น สูตร ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในนาม “EAU DE COLOGNE” และสูตรน้ำหอมนี้ต่อมาได้ตกทอดสู่มือหลานชาย ชื่อ GIAN MARIA FARINA ผู้ซึ่งสืบทอดและขยายกิจการของลุงให้ใหญ่โตจนถึง คศ.1766 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” หลังการจาก ไปของ GIAN MARIA FARINA บุคคลอื่น ๆ ในตระกูล FARINA ก็ได้เข้าอ้างสิทธิในสูตรลับ EAU DE COLOGNE และต่อมาในปี คศ. 1865 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” พบว่ามีร้านจำหน่าย COLOGNE ในชื่อนี้มากกว่า สามสิบเก้าร้าน กระจายอยู่ทั่วไป อย่างไรก็ตาม JEAN MARIE FARINA (ไม่มีผู้ใดทราบว่าเป็นนามจริงหรือสมมุติขึ้น) ได้ริเริ่มแนวคิดที่จะผลิต COLOGNE ของเขาให้แตกต่างจากร้านอื่น ๆ โดยได้ตั้งหลักปักฐานขึ้นในเมือง ปารีส ประเทศฝรั่งเศสในปี คศ.1806 คุณภาพที่ดีเยี่ยมของน้ำหอมที่เขาผลิตขึ้นประกอบกับความเป็น อัจฉริยะทางการขายของคู่ครองของเขา ได้ทำให้น้ำหอมที่เขาผลิตขึ้นสร้างชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว เห็นได้จากหนึ่งในลูกค้าประจำที่สำคัญคือ จักรพรรดิ NAPOLEON ที่ยิ่งใหญ่แห่ง  “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

ประวัติน้ำหอม ฝรั่งเศส ปี คศ. 1792

เรื่องราวเกี่ยวกับน้ำหอมที่น่าสนใจอีกเรื่องต้องขอย้อนกลับไปในปี คศ. 1792 ใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ในงานแต่งงานของบุตร ชายนายธนาคาร ชื่อ WIHELM ณ.สำนักงานใหญ่ของธนาคาร MÜLHENS BANK ในเมือง COLOGNE ประเทศเยอรมันนี มีพระสงฆ์ที่มาร่วมงานผู้หนึ่ง ได้มอบเอกสารเขียนด้วยลายมือ ซึ่งเป็นสูตร ลับในการผลิตสารที่มีกลิ่นหอม และมีคุณสมบัติทางยาให้เป็นของขวัญแก่คู่บ่าวสาว ชื่อ “AQUA MIRABILIS” ต่อมาเจ้าบ่าวหนุ่มน้อยได้ใช้สูตรนี้ในการผลิตและจำหน่ายน้ำหอมนี้ภายใต้ชื่อสินค้า “4711 THE TRUE EAU DE COLOGNE” (4711 คือ เลขที่บ้านที่เขาอยู่ซึ่งกำหนดโดยกองทัพของ จักรพรรดิ์ NAPOLEON) EAU DE COLOGNE 4711 ของเขายังคงจำหน่ายมาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นเวลากว่า สองร้อยปี โดยผู้สืบทอดทางสายโลหิตของเขา FERDINAND MÜLHENS และยังคงใช้สูตรดั่งเดิมเหมือน เมื่อปี ค.ศ. 1792 ใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

ในศตวรรษที่ 18 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” เป็นช่วงที่มีการพัฒนาภาชนะบรรจุน้ำหอมให้มีความหลากหลาย ไปตามชนิดของ น้ำหอมและการใช้งาน ฟองน้ำชุบด้วยน้ำหอมบรรจุอยู่ในภาชนะ เคลือบหรือทาไว้ด้วยทอง(AIR FRESHERNER ชนิดแรก) น้ำหอมชั้นดีที่ บรรจ ุในภาชนะรูปทรงแพร (PEAR SHAPE) เป็นขวดน้ำหอมโปรดของพระเจ้า หลุยส์ที่ 14 นอกจากนี้ภาชนะที่ทำจากแก้ว เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดย เฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการเปิดโรงงานผลิตเครื่องแก้ว BACCARAT FACTORY ของประเทศ ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1765 และยังมีความมุ่งมั่นที่จะ พัฒนารูปแบบและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์เครื่องแก้วของโรงงาน SAINT-LOUIS GLASSWORKS เจ้าของเครื่องแก้ว คริสตัล (CRYSTAL) ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ยังมีผู้ผลิตเครื่องประดับที่ได้เริ่มหันมาผลิตภาชนะ บรรจุน้ำหอมโดยใช้ทองและเงินแกะสลักลวดลายอย่างงดงาม ลักษณะของขวดน้ำหอมจะใช้แนวศิลปะ แบบ BAROQUEในศตวรรษที่17 เป็นแรงบันดาลใจ แบบฉบับเฉดเช่นของ CHINOISERIE และ ROUSSEAUS CHERISHED ซึ่งเน้นการกลับสู่ธรรมชาติ ส่วนศิลปะจีนในยุคนั้นจะมุ่งเน้นในการผลิต ภาชนะ CHANTILLY PORCELAIN BOTTLES (ขวดที่ทำจากเครื่องปั่นดินเผาเคลือบ) ในขณะที่ SAINT-CLOUD FACTORY ดูจะมีชื่อเสียงในการชุบทองและ SÈVRES สำหรับภาชนะรูปทรงแพร (PEAR-SHAPE BOTTLES) แต่ดูเหมือนว่าภาชนะดินเผาเคลือบแบบจีน จะมีคุณสมบัติในการเก็บรักษาคุณภาพ น้ำหอมได้ดีกว่าภาชนะบรรจุของเยอรมันนี,ออสเตรียและอังกฤษ โรงงาน CHELSEA FACTORY ของอังกฤษเป็นผู้เชียวชาญในการผลิตขวดน้ำหอมแกะสลักรูปต่าง ๆ โดยเฉพาะรูปมนุษย์ สัตว์ และผลไม้ โดยส่วนหัวมักจะเป็นจุกหรือฝาเปิดของขวด ขณะเดียวกันโรงงานขวด

ยุคบุกเบิก ขวดน้ำหอม ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ที่ดีที่สุด

WEDGWOOD BOTTLES รูปตัวอย่างขวดน้ำหอมยุคต่างๆ  ของอังกฤษมักออกแบบขวดน้ำหอมเป็นสีน้ำเงินและขาว ในเยอรมันนี โรงงาน MEISSEN FACTORY เป็นโรงงานแรกในยุโรปที่ผลิต PORCELAIN โดยใช้ HARD POSTE (ดินเปียกเหนียวสำหรับปั้นภาชนะ) รูปแบบอย่าง ROCOCO DESIGNS, ORIENTAL MOTIFS รูปดอกไม้ รูปผลไม้และรูปการสู้รบดูจะเป็นที่นิยม มากในสมัยนั้น ในขณะที่โรงงาน CHELESEA FACTORY ของอังกฤษดูจะ ชำนาญในการทำภาชนะไปตามคุณลักษณะของ COMMEDIA DELL’ARTE ศตวรรษที่ 18 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ยังเป็นยุคสมัยของศิลปะ NÉCESSAIRE ซึ่งเป็นภาชนะบรรจุน้ำหอม ขนาดเล็ก เช่นเดียวกับหลอดแก้วเล็ก ๆ ที่ใช้ในการบรรจุน้ำหอม รูปแบบภาชนะ ที่เรียกกันว่า NÉCESSAIRE เหล่านี้ มักจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งของทรงยาว เช่น ดินสอ แปรงสีฟัน แม้กระทั่งที่สำหรับขูดลิ้น ตลอดจนไม้แคะหูเป็นต้น

ศตวรรษที่ 16 สุดยอดแห่ง การค้นพบ ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส พืชให้ความหอม

GRASSE, LA TERRE DU PARFUME เมือง GRASSE ดินแดนแห่งน้ำหอม เป็นแหล่งปลูกพันธุ์ไม้หอมนานาชนิด ที่นำมาเป็นหัวเชื้อธรรมชาติในการผลิตน้ำหอมของ ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส เมือง GRASSE ตั้งอยู่่ห่างจากชายฝั่งเข้าไปนั้นมีสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชที่เปราะบางมากๆ เช่นกุหลาบ มะลิ ส้ม เข็ม และตูเบเวิส ซึ่งนำมาใช้เป็นส่วนประกอบพื้นฐานในการผลิตน้ำหอม เมื่อคุณเดินเล่นอยู่ที่เมืองGRASSE แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรม บ้านเรือนที่มีลักษณะอาคารแบบยุคกลาง และยังคงรักษาเอกลักษณ์ มนต์เสน่ห์ความเป็นนครหลวงแห่งน้ำหอมของโลกไว้ได้มายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

และทุกวันนี้ มีประชากรผู้รักงานด้านความหอมหลั่งไหลเข้ามาทำงานในบริษัทน้ำหอมและเครื่องหอมของเมืองนี้ถึง 2000 คน โดยมีตัวเลขด้านการค้าสูงถึง 800 ล้านยูโรต่อปี ไม่ว่าคุณจะอยู่ทุกมุมไหนของโลก เสน่ห์แห่งความหอมของเมือง GRASSE ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” จะติดตามคุณอยู่เสมอ ดังนั้นอุตสาหกรรมด้านน้ำหอมจึงไม่มีวันตายจากตลาดฝรั่งเศส และทุกแห่งในตลาดโลก ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” อย่างแน่นอน

“ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ในยุคใหม่

ในยุคในปลายศตวรรษที่สิบเก้า ปารีสสนิทสนมกับการฟื้นตัวอย่างแท้จริง เนื่องจากบารอนเฮาส์มันน์มีไดโอดปริมาณมากที่ถูกสุขลักษณะ “การทำความสะอาด” ครั้งใหญ่นี้ทำให้เมืองหายใจได้อีกครั้งและสนับสนุนการนำผลิตภัณฑ์เทียมมาใส่ในน้ำหอมเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็ง ปารีสได้รับการสนับสนุนจาก Grasse ในการจัดหาวัสดุจากธรรมชาติ กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตน้ำหอมของโลก บ้านน้ำหอมที่ดีสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและได้รับการอุปถัมภ์จากนานาชาติ การกล่าวถึงปารีสหรือสร้างขึ้นในฝรั่งเศสกลายเป็นการรับประกันคุณภาพและความชอบธรรม อิทธิพลนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากชาว Guerlain ในปี พ.ศ. 2432 บ้านหลังนี้ได้ลงนาม Jicky ซึ่งเป็นน้ำหอมแนวใหม่อันดับ 1 ที่สร้างขึ้นในฝรั่งเศส Aimé Guerlain มีส่วนร่วมในการก่อตั้งสหภาพแห่งชาติของธุรกิจน้ำหอมของฝรั่งเศส

อำนาจของฝรั่งเศสนี้ส่งออกไปในยุโรป อย่างไรก็ตาม ร่วมกันภายในเรา คุณสมบัติของความหรูหราและความงดงามนั้นเป็นสิ่งที่มักจะไม่พูดถึงน้ำหอมของฝรั่งเศสเมื่อนักออกแบบแฟชั่นที่ดีที่สุดของประเทศสามารถเปิดตัวการสร้างสรรค์ครั้งแรกของพวกเขาได้ ทีละน้อย} ทีละน้อย กลิ่นหอมกลายเป็นประชาธิปไตยและสากล อย่างไรก็ตามตั้งแต่นั้นมา น้ำหอมฝรั่งเศสได้ทำลายชื่อเสียงและสถานะอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากการปรากฏตัวของน้ำหอมเฉพาะกลุ่ม น้ำหอมที่สร้างขึ้นในฝรั่งเศสจึงดูเหมือนเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

น้ำหอมชื่อดังใน Grasse ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

ในพื้นที่นั้นมีโรงน้ำหอมชื่อดัง 3 แห่งในเมือง Grasse และทุกแห่งมีทัวร์สาธารณะซึ่งแขกจะได้ศึกษาวิธีการทำน้ำหอม พวกเขาร่วมกันจัดหาทัวร์เชิงโต้ตอบที่เกี่ยวข้องทุกที่ที่แขกจะสร้างกลิ่นหอมของตัวเองใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

  • Molinard: Molinard ได้รับการสนับสนุนในปี พ.ศ. 2392 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” เป็นร้านน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส Molinard ไม่ได้โด่งดังเพียงเรื่องน้ำหอม  ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตร่วมกันสำหรับขวดที่หรูหราซึ่งประดิษฐ์จากการ์ดเกมคริสตัลและแก้ว Lalique พวกเขาจัดทัวร์ด้วยเวิร์กช็อปหลักสูตรน้ำหอมในทุกที่ที่ผู้ซื้อจะสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัว
  • Galimard Perfumery: ได้รับการสนับสนุนในปี 1747 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” โดย Jean Delaware Galimard ทำให้ Galimard Perfumery เป็นบริษัทน้ำหอมที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของโลก พวกเขาจัดหาขี้ผึ้งและน้ำหอมให้ราชสำนัก
  • น้ำหอม Fragonard: ก่อตั้งขึ้นในปี 1926 ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” Jean Honore Fragonard Perfumery เป็นหนึ่งในโรงงานน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดใน Grasse สิ่งที่ทำให้น้ำหอมนี้มีความพิเศษคือพวกเขาต้องการที่เก็บของตัวเองชื่อ Jean Honore Fragonard Musee Delaware Parfum ที่เก็บของหายากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ที่มีน้ำหอมกว่า 5,000 ปี

 5 อันดับ น้ำหอมยอด ฮิตตลอดกาล ใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

และนี่เป็น 10 อันดับแบรนด์น้ำหอมใน ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส ที่คุณจะตกหลุมรัก เป็น 10 น้ำหอมฝรั่งเศสแบรนด์ดังระดับโลก 

    • Nina Ricci: …
    • Givenchy Very Irresistible: …
    • Yves Saint Laurent Parisienne: …
    • Paco Rabanne lady Million: …
    • Guerlain Idylle: …
    • Thierry Mugler Alien: …
    • Chantal Thomass Osez Moi: …
  • LancomeTresor:
  • Chanel No. 5 (1921) …
  • Cacharel Anaïs Anaïs (1978) “Nina Ricci’s L’Air du Temps used to be the first perfume that would be given to a young girl. …
  • Guerlain Shalimar (1925) …
  • Yves Saint Laurent Opium (1977) …
  • Kenzo Parfums Flower by Kenzo (2000) …

ผู้ผลิตน้ำ ใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

การเติบโตอย่างรวดเร็วของการค้าน้ำหอมจะไม่เกิดขึ้นหากไม่ใช่เพราะความพยายามที่จะสรรหาคนที่มีความรู้สึกไวในการดมกลิ่น “จมูก” ที่ถูกกล่าวหาว่าทำงานที่นั่นมาจนถึงปัจจุบันและการบริการของพวกเขาก็วัดมูลค่าน้ำหนักของพวกเขาในทองคำ ที่ปรึกษาดังกล่าวมีอยู่เพียง 50 คนเท่านั้น และบริการของพวกเขาเป็นที่ต้องการของผู้ผลิตน้ำหอมรายใหญ่ระดับนานาชาติทั้งหมด

ผู้ผลิตน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุด ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” บางแห่งมีอยู่ใน Grasse จนถึงปัจจุบัน เช่น Galimard Parfumeur (ปี 1747), Molinard Parfumeur (ปี 1849) และ Jean Honore Fragonard Parumeur ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจิตรกรระดับปรมาจารย์ Jean-Honore Jean Honore Fragonard

การทำฟาร์มที่ยอดเยี่ยม1

พื้นที่รอบๆ Grasse ยังคงมีชื่อเสียงในด้านส่วนผสมของน้ำหอม รวมไปถึงพุ่มไม้ กุหลาบ ผักกระเฉด และดอกส้ม เมื่อพุ่มไม้ดอกลาเวนเดอร์พื้นเมืองบานสะพรั่ง ภูมิภาคนี้ก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานอย่างยิ่ง ทุ่งสีม่วงที่กว้างใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสวัดสายตาให้มองเห็น และอนุญาตให้คนใดคนหนึ่งเข้าใจได้จริงว่าทำไมใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ถึงถูกพิจารณาว่าเป็นเมืองหลวงแห่งกลิ่นหอมของโลก

บทสรุปของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”

การผลิต ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”เป็นทางเลือกที่เรียบง่ายเมื่อเราเริ่มต้นการเดินทางที่ดีนี้ เราดำเนินกิจการมาเป็นเวลาหลาย ปีแล้วเพื่อมุ่งเน้นไปที่ความสามารถอันยอดเยี่ยมของพันธมิตรและช่างฝีมือชาวฝรั่งเศส ใน “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส” ที่คุณอาจตระหนักได้บนแผนที่นี้ ตั้งแต่ Bangkok Thailand ที่ใดก็ตามที่มุ่งหมายให้น้ำหอม ไปจนถึง Southeast Asia สำหรับการจัดรูปร่างของเคส ไปจนถึง ระดับนานาชาติ ทุกที่ที่น้ำหอมของคุณอัดแน่นทีละชิ้นด้วยมือ มนตราที่สร้างขึ้นในจากสูตรน้ำหอม ของ “ประวัติ น้ำหอมฝรั่งเศส”คือมนต์ของเรา การผลิตแบบเนทีฟและการประกอบแบบแมนนวลนี้ไม่ใช่การเลือกที่ง่ายที่สุดในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาอนุญาตให้จัดหาน้ำหอม ความคิด ออกแบบ และบรรจุขวดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะให้กับคุณ สำหรับคุณเท่านั้น ในขณะที่ยังคงรักษาความลับ ห่างไกลจากเครือข่ายการจำหน่ายขนาดใหญ่ เรามีแนวโน้มที่จะให้เกียรติมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่ารักของน้ำหอมฝรั่งเศสโดยมอบการสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขตแก่คุณ!

ขอขอบคุณที่มา

https://uk.france.fr/en/news/article/french-perfume-1

https://about-france.com/tourism/french-perfume.htm

https://www.vogue.com/slideshow/perfume-france-chanel-yves-saint-laurent-francis-kurkdjian

1. HOW FRANCE BECAME THE PERFUME CAPITAL OF THE WORLD : https://politech.pl ,https://politech.pl/en/blog/how-france-became-the-perfume-capital-of-the-world/