เริ่มต้น ประวัติน้ำหอม
น้ำหอม มีประวัติอันยาวนาน. คิดกันว่าเครื่องหอมยุคแรก ๆ ได้มาจากการเผายางไม้ชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นเครื่องหอมในพิธีทางศาสนา. บันทึกยุคแรก ๆ เกี่ยวกับน้ำหอมมาจากอียิปต์. เมื่อเปิดสุสานของฟาโรห์ตูตันคาเมน มีการพบภาชนะใส่น้ำหอมมากกว่า 3,000 อันซึ่งบางอันยังมีกลิ่น น้ำหอม ผู้ชาย หลงเหลืออยู่บ้างหลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 30 ศตวรรษ!
เมื่อหนึ่งพันห้าร้อยปีก่อนสากลศักราช “เครื่องหอมพิเศษ” มีอยู่ในสูตรที่พระเจ้าประทานให้สำหรับทำน้ำมันเจิมอันบริสุทธิ์ที่ปุโรหิตชาวอิสราเอลใช้. ชาวฮีบรูใช้ขี้ผึ้งหอมเป็นเครื่องสำอางและเป็นยา รวมทั้งใช้ทาศพก่อนฝัง ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพื่อฆ่าเชื้อและดับกลิ่น. ยกตัวอย่าง พวกผู้หญิงนำเครื่องหอมและน้ำมันหอมไปที่อุโมงค์ฝังศพเพื่อจะชโลมพระศพของพระเยซู. การใช้น้ำมันหอมชโลมเท้าแขกถือเป็นธรรมเนียมการต้อนรับในบ้านของชาวอิสราเอล.
เรื่องนี้ เป็นหนึ่งในเรื่องยอดนิยมของวงการ น้ำหอม ทั้งน้ำหอม ผู้ชาย และ น้ำหอม ผู้หญิง
บันทึก ประวัติน้ำหอม
มีบันทึกว่า ในศตวรรษแรกโรมใช้กำยานประมาณ 2,800 ตันและมดยอบ 550 ตันต่อปี. ส่วนผสมอันหอมหวนเหล่านี้ถูกนำมาถวายเป็นของขวัญแด่พระกุมารเยซู. ในปี ส.ศ. 54 กล่าวกันว่าเนโร จักรพรรดิโรมัน ใช้เงินซึ่งในสมัยนี้เท่ากับ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อทำให้งานรื่นเริงมีกลิ่นหอม. เขาสั่งให้ซ่อนท่อในห้องอาหารเพื่อฉีดน้ำหอมให้ฟุ้งกระจายไปทั่ว. ตั้งแต่ศตวรรษที่เจ็ด ส.ศ. เป็นต้นมา ชาวจีนได้ใช้เครื่องหอมชนิดต่าง ๆ รวมทั้งบุหงา. ในยุคกลาง มีการใช้น้ำหอมในวัฒนธรรมอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นกุหลาบ.
อุตสาหกรรม ใน ประวัติน้ำหอม
อุตสาหกรรม ในประวัติน้ำหอม น้ำหอมเฟื่องฟูในฝรั่งเศสระหว่างศตวรรษที่ 17 ถึงขนาดที่ราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ถูกเรียกว่าราชสำนักน้ำหอม. มีการใส่กลิ่นไม่เพียงที่ผิวหนังแต่ที่เสื้อผ้า, ถุงมือ, พัด, และเครื่องเรือน.
โคโลญถูกคิดค้นขึ้นในศตวรรษที่ 18 และใช้เพื่อผสมน้ำอาบ, ผสมกับเหล้าองุ่น, รับประทานกับก้อนน้ำตาลเพื่อดับกลิ่นปาก, และใช้เป็นยาสวนทวารและยาพอก. มีการทำกลิ่นสังเคราะห์ขึ้นในศตวรรษที่ 19. ด้วยเหตุนี้ น้ำหอมรุ่นแรกซึ่งไม่เหมาะจะใช้เป็นยาจึงเริ่มออกวางตลาด.
โดยน้ำหอมที่ขึ้นชื่อว่ามีความหอมเป็นพิเศษนั้นก็คือ น้ำหอมฝรั่งเศส
อ่านที่มา ประวัติน้ำหอมเต็มๆ ได้ที่นี่